Fast Fact About Fascinating India
(ครั้งเยือนราชสถาน ณ 02 – 07 พฤศจิกายน 2561)
คนอินเดียเป็นคน Friendly ชอบพูดคุยกับชาวต่างชาติ และชอบคนไทย หรือโดยรวม ๆ เขาชอบคนเอเชียมากกว่าฝรั่ง ไกด์เล่าว่า เขาไม่ค่อยชอบฝรั่งเท่าไร เพราะเคยตกเป็นอาณานิคมของขาวอังกฤษ และคนอังกฤษได้เผาทองจาก Taj Mahal
ที่อินเดียขับรถกันไม่ค่อยเป็นระเบียบ เขาไม่ค่อยใช้สัญญาณไฟกัน จึงเป็นเหตุให้บีบแตรกันตลอด ๆ ทั้งวัน และขับรถเบียดเสียดกัน แทบจะตำกันอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่ชน เพราะเขาเป็นของเขาแบบนั้น แต่ถ้าถามถึงอุบัติเหตุมีบ้างเพียงเล็กน้อย ไม่ค่อยมีอุบัติเหตุใหญ่ (ใครที่เคยไปเวียดนามมาแล้ว คงพอนึกออก)
รถที่อินเดีย โดยรวม ๆ ก็ยังดูเก่า ๆ อยู่นะ เหมือนพม่าสมัยก่อน
การข้ามถนนที่นี่ ค่อนข้างยาก ต้องใช้ฝีมือ เพราะรถไม่ค่อยจอดให้ เข้าทำนองเดียวกับที่เวียดนาม ที่ถือคติว่า “ใจกล้าไปก่อน ใจอ่อนไปทีหลัง”
อย่าพูดว่า “วัว” เป็นเทพเจ้า เพราะว่า มันไม่ถูกต้อง “วัว” เป็นพาหนะของพระศิวะเท่านั้น คนอินเดียจึงให้ความเคารพนับถือ ไม่ทำอันตราย และไม่บีบแตรไล่วัวที่นี่ เกลื่อนกลาดเต็มถนน ในขณะที่หมาไม่มีเยอะเท่า ยิ่งแมว แทบไม่เห็น ไม่เหมือนไปยุโรปบางเมือง บางประเทศ แมวเยอะมาก อาทิ ตอนไป โรมาเนีย และ บัลแกเรียเป็นต้น
ที่อินเดีย สื่อสารกันโดยใช้ภาษามือ ภาษากาย และภาษาท่าทางต่าง ๆ มากมาย อาจจะต้องอยู่นานสักหน่อย ถึงจะเข้าใจ
คนอินเดียจะออกแนวชิลล์ เขาจะไม่ทำงาน แนวรีบ ๆ เร่ง ๆ เหมือนพวกเรา (ภูฏานก็ทำงานชิลล์เหมือนกัน ต้องเข้าใจเขาหน่อย เพราะชีวิตเขาออกแนว slow life)
เนื่องด้วยอินเดีย มีอากาศร้อน ถึง ร้อนมาก และมีฝุ่นมาก แนะนำให้พก ผ้าเย็น แอลกอฮอล์เหลว หรือผ้าปิดจมูกไปด้วย จะเป็นประโยชน์มาก
ผู้คนที่นี่อยู่ได้ด้วยทิปเป็นหลัก สำหรับคนที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแล้ว ถือว่า น่าสงสาร ที่หลายคนไม่ได้มีรายรับเป็นรายเดือน หรือรายวัน อาทิ เด็กรถ ผู้ช่วยไกด์ หรือคนขับรถ ตัวอย่างคือ คนขับรถมีอาวุธหาเลี้ยงชีพ คือ รถ และกุญแจที่เจ้าของให้มา จากนั้น รายรับคือรอทิปจากนักท่องเที่ยว ดังนั้น ถ้าเราไม่ลำบากเกินไป ช่วยกันกระจายรายได้ให้พวกเขาบ้าง เราถามไกด์ว่า แล้วทำไมเขาจึงทำกัน ไกด์ตอบว่า คนประเทศนี้ ตกงานกันเยอะแยะ การมีงานทำถือว่า ดีเป็นไหน ๆ ดังนั้น เราจึงต้องพกตังทิป พอสมควร เพราะว่า เราควรให้ทิปคนที่เฝ้าหน้าห้องน้ำและบริการกระดาษทิชชู่ให้เรา ทิปคนยกกระเป๋าที่โรงแรม ทิปร้านอาหาร ทิปพนักงานดูรถตามสถานที่ต่างๆ ทิปคนเฝ้ารองเท้าเวลาที่เราเข้าวัด และอื่น ๆ อีกหลายแห่ง เพราะจงจำไว้ว่า เขาพวกนั้น ไม่มีรายได้ใด ๆ นอกจากทิป
ถ้าคุณเผลอไปถ่ายรูปหรือวีดีโอ แขกเป่าปี่ให้งูเห่าเต้น แล้วไม่ให้ทิปแล้วละก็ระวัง แขกมาตามทวงทิป โดยถืองูเห่ามาด้วย !!
การใช้บัตรเครดิตยังไม่ค่อยแพร่หลาย ดังนั้นแนะนำให้แลกเงินรูปีไปให้เพียงพอ เพราะการซื้อของที่อินเดีย ส่วนมากเป็นการซื้อของโดยใช้จำนวนเงินเล็กน้อยมากกว่า อาทิ ของแต่งบ้านชิ้นเล็ก ๆ เสื้อผ้า เครื่องประดับ ที่ติดตู้เย็นน้ำ หรือขนม เป็นต้น
การขับรถที่นี่ โดยเฉพาะรถโค้ชใหญ่แบบคณะนักท่องเที่ยว จำเป็นต้องมี เด็กรถ เด็กรถ มีหน้าที่คอยเป็นตาอีกคู่หนึ่งให้คนขับ เพราะตามที่กล่าวข้างต้น ว่า รถที่นี่ขับกันแบบทุกคนมีสิทธิ์บนท้องถนน ดังนั้น เด็กรถ เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมาควบคู่กับรถ โดยเขาก็จะช่วยดูแลเรื่องเอากระเป๋าขึ้นลง รถโค้ช ของนักท่องเที่ยว และเป็นเพื่อนคุยกับคนขับรถด้วย
การเดินทางในอินเดีย ไม่ว่าเส้นทางไหน ๆ จะประกอบด้วยการเดินทางที่ยาวนานมาก แม้ว่า จำนวนกิโลเมตร อาจจะไม่ได้มากซะขนาดนั้น แต่ขึ้นอยู่กับ สภาพถนน และ การจำกัดความเร็วของรถใหญ่ ที่ขับได้ไม่เกิน 80 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงเท่านั้น หรือบางที อาจเจอรถติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาล ต้องคำนวณเวลาดี ๆ
อินเดียเป็นประเทศที่มีเทศกาลเยอะมาก และผู้คนก็สนุกสนานและรอคอยช่วงเวลานี้ เพื่อเฉลิมฉลองกันอย่างเต็มที่
อินเดียเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก และยังอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ วัฒนธรรมเป็นนี้ถือว่า ยังเหนียวแน่นมาก
เวลาซื้อของที่อินเดียให้ต่อราคา 50 – 70 % ถ้ารู้สึกว่าราคาที่ตั้งไว้มันเว่อร์มาก เพราะหลายครั้ง เขาสามารถลดราคาให้ได้ขนาดนั้นจริง ๆ แต่ไม่ใช่กับทุกสินค้า และทุกสถานที ให้ดูตามความเหมาะสมว่า สินค้านั้น ๆ ควรมีราคาเท่าไร และต่อได้ตามสมควร หรือหากบางแห่งที่มีการตั้งราคา fixed price ไว้แล้ว อาจจะไม่มีการลดราคาให้เลยก็เป็นไปได้
ให้พึงระลึกไว้ว่า การซื้อของที่สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ หรือจุดพักรถ ย่อมมีราคาสูงกว่า ซื้อตามตลาดทั่วไป แต่ให้ถามตัวเองว่า หากเรารอไปจุดหมายปลายทางข้างหน้า แล้วเกิดของที่เราชอบหรือต้องการไม่มี เราจะเสียดายไหม อันนี้ เป็นกฎเกณฑ์ที่บอกกันไม่ได้ ให้ใช้วิจารณญาณส่วนตัว
ชานมที่อินเดีย เรียกว่า chai tea (ออกเสียง จ๋าย)
คนอินเดีย ทานมังสวิรัติ หรือเป็น vegan กันเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น อาหารส่วนมาก จะประกอบด้วยแป้ง ผักต่าง ๆ และเครื่องเทศที่มีกลิ่นและรสชาติค่อนข้างรุนแรง การทำเนื้อสัตว์มาเสิร์ฟ ให้เรานั้น จะเป็นไก่ซะส่วนมาก รอง ๆ มาจะเป็นปลา และลืมไปเลยสำหรับหมูหรือเนื้อ เพราะคนอินเดียที่เป็นฮินดู ไม่ทานเนื้อวัว เป็นคนที่เป็นมุสลิม ไม่ทานเนื้อหมู ดังนั้น จงปรับตัว และเอาน้ำพริก น้ำปลา และอาหารที่ชอบพกพาไปเองให้เพียงพอ
มีเพื่อนคนจีน ถามเพื่อนคนอินเดียว่า หากคนอินเดียส่วนใหญ่ทานมังสวิรัติเป็นหลักแล้วนั้น เหตุใด สาวอินเดีย จึงอ้วนถ้วนสมบูรณ์นัก จากที่เราไปมา เราคงตอบได้ว่า เพราะอาหารหลักที่นี่ มีส่วนประกอบ ของ แป้ง และน้ำมันเยอะมาก ของทอดเยอะ ขนมหวานก็หวานสุด ๆ ไปเลย
การแต่งตัวเมื่อไปอินเดียนั้น สาว ๆ ควรแต่งตัวให้รัดกุมมิดชิด เนื่องด้วย ว่ากันตามหลัก ชายชาวอินเดียนั้น ก็ไม่ค่อยได้คุ้นชิน กับการแต่งตัวโชว์เนื้อหนังของสาว ๆ เท่าไรนัก เนื่องด้วยสาวชาวอินเดีย จะแต่งชุดสาหรี่เป็นหลัก หรืออาจจะเป็นเสื้อคลุมยาวระดับเข่า และสวมกางเกงขายาวไว้ด้านในอีกที ดังนั้น การแต่งตัวแบบวับ ๆ แวม ๆ ก็ทำให้เกิดเป็นจุดสนใจได้ จึงแนะนำให้แต่งตัวเรียบร้อยหน่อยหากเดินทางเอง
เวลาทานโรตี หรือ นาน ให้ใช้มือ โดยปกติ คนที่นี่ เขาจะใช้มือขวา อย่างเดียวในการจับบิด และจิ้มเครื่องแกง มือซ้ายไม่ได้ใช้อะไร วางไว้สวย ๆ
ห้องน้ำที่อินเดีย ดีกว่า ห้องน้ำที่จีนมาก การเดินทางของคณะเรา ไม่ประสบปัญหาเรื่องห้องน้ำเลย มีจุดพักรถมากมาย ที่ให้ใช้ห้องน้ำได้ โดยห้องน้ำถือว่า สะอาดพอควร มีหลายห้อง และไม่ส่งกลิ่นเหม็น หากไปไหน แล้วยังต้องเข้าห้องน้ำลำบาก ๆ อาจจะหมายถึงว่า ผู้นำทางของคุณไม่เตรียมงานที่ดีเพียงพอ
สถาปัตยกรรมที่อินเดียแต่ละแห่งหรูหราอลังการ และแตกต่างมีเอกลักษณ์ เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบเรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง และรู้จักวิถีชีวิตชาวบ้าน และเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบถ่ายภาพ นับว่า เป็นประเทศที่มีเสน่ห์น่าค้นหาแห่งหนึ่งเลยทีเดียว
มีหลายอย่างที่เรายังไม่เข้าใจอินเดียอย่างที่เขาเป็น ไกด์บอกเราว่า จงเข้าใจ อินเดียอย่างที่เขาเป็น แล้วการเที่ยวอินเดียจะสนุกสนานมากขึ้น อย่าพร่ำบ่น ว่า ทำไมเขาไม่เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะนี่ คือตัวตนของเขา