Always Vacation เพิ่งกลับมาจากกรีนแลนด์ด้วยการเที่ยวเรือ Expedition Cruise ที่ชื่อว่า Albatross Expeditions Cruise อยากมาเล่าให้ฟังค่ะ
วันแรกเราก็มาเริ่มที่สนามบินโคเปนเฮเกน บินไฟล์ทเช้าเพื่อที่จะบินไปที่กรีนแลนด์ ลงที่สนามบินแคงเกอร์ลุสซวก โดยบินที่สายการบิน Enter Air ออกตอน 6.45 น. ทุกคนจะตื่นเต้นมาก เพราะว่ากรีนแลนด์ไม่ได้เป็นที่ที่เราจะไปกันได้ง่าย ๆ เครื่องบินข้างในจะเหมือน Airbus A320 เหมือน Air Asia เพราะใช้เครื่องบินประเภทเดียวกันคือ เป็น 3 ที่นั่ง และ 3 ที่นั่ง บินยาว ๆ มา 5 ชั่วโมงและถึงสนามบินแคงเกอร์ลุสซวก
Kangerlussuaq (แคงเกอร์ลุสซวก) เป็นเมืองเล็กๆ ในกรีนแลนด์ที่รู้จักกันดีที่สุดจากการเป็นที่ตั้งของสนามบิน Kangerlussuaq ซึ่งเป็นหนึ่งในสองสนามบินพลเรือนเพียงแห่งเดียวในกรีนแลนด์ ที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ได้ เมืองนี้ตั้งอยู่ใจกลางเกาะกรีนแลนด์ และมีความสำคัญเป็นฐานการบินและจุดเชื่อมต่อการเดินทางไปยังส่วนอื่น ๆ ของกรีนแลนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้าถึงแผ่นน้ำแข็งของกรีนแลนด์
ช่วงที่เรามาเป็นปลายเดือนสิงหาคม เป็นช่วงฤดูร้อนของกรีนแลนด์ อุณหภูมิประมาณ 10 องศา
Kangerlussuaq ถือว่าเป็นหน้าด่านเวลาที่เราไปกรีนแลนด์ ถัด ๆ ไปจะเป็น Kangerlussuaq Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมเดียวที่ดีที่สุดของที่นี่ อาคารมี 2-3 ชั้น ไม่หรูหรา ดูเบสิคและไม่วุ่นวาย


เราจะยังไม่ลงเรือ จึงซื้อเป็น Tour sightseeing เพิ่มมา ซึ่งในภาษากรีนแลนด์ Kangerlussuaq ตัว K ให้ออกเสียงแบบ G เลยออกเสียงแบบ แกง-เก้อ-ลูส-สวก คล้าย ๆ แกง-กา-ลู ค่ะ


ลักษณะของภูมิประเทศ ต้นไม้จะเป็นต้นเตี้ย ๆ หินจะเยอะ และมีทะเลสาบกว้างไกล ซึ่งถนนที่นี่ค่อนข้างขรุขระตามภูมิประเทศ หน้าร้อนของกรีนแลนด์จะมี 2-3 เดือน คือกรกฎาคม สิงหาคม และกันยายน เราจะเริ่มเห็นเป็นแผ่นน้ำแข็ง (Glacier) และเห็นกวางซึ่งเป็นสัตว์พื้นเมืองของกรีนแลนด์

สิ่งที่เราจะไปดูคือ Reindeer Glacier ต้องนั่งรถมาเป็นระยะเวลาราว ๆ 1 ชั่วโมง เพื่อจะมาถึงจุดหมาย เมื่อถึงจุดหมายจะเห็นว่าที่นี่มีทิวทัศน์ที่กว้างไกล เป็นลักษณะภูมิประเทศที่พิเศษมาก พร้อมอากาศบริสุทธิ์ เรียกว่า ทุนดร้า คือลักษณะภูมิประเทศที่มีต้นไม้เตี้ย ๆ เล็ก ๆ ไม่มีต้นไม้ที่สูงใหญ่ ไม่เขียวมาก และพื้นที่เดินจะมีความชุ่มน้ำ เนื่องจากในหน้าร้อนทำให้น้ำแข็งละลาย รองเท้าที่ต้องเตรียมก็ต้องเตรียมมาเป็นอย่างดี


Reindeer Glacier เป็นธารน้ำแข็งในกรีนแลนด์ที่ตั้งอยู่ในมรดกโลกขององค์การยูเนสโก Aasivissuit – Nipisat และเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งครอบคลุมพื้นที่กว่าร้อยละ 80 ของประเทศ ชื่อธารน้ำแข็งมาจากที่ที่สามารถพบเห็นกวางเรนเดียร์ได้บ่อย
ตรงทางเดินไปข้างหน้าจะมีน้ำตก ระหว่างที่เดินไปจะเห็นเป็นกลาเซียร์อยู่ไกล ๆ


เราจะเดินไปกลับประมาณ 1-1.5 กม. ขึ้นอยู่ว่าจะเดินเข้าไปใกล้น้ำตกมากแค่ไหน ระหว่างนั้นจะมีเวลาอิสระประมาณ 40 นาที ให้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ เมื่อเสร็จแล้วจะนั่งรถกลับทางเดิมมาที่เมือง Kangerlussuaq เมืองนี้มีประชากร 450 คน แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น อาคารบ้านเรือน สนามเด็กเล่น โรงเรียน ไปรษณีย์ และอื่น ๆ อย่างครบครัน

กรีนแลนด์เป็นประเทศที่เหมาะกับคนที่เคยเที่ยวมาเยอะแล้ว และต้องการมาดูอะไรที่แตกต่าง ทั้งภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และวัฒนธรรม
อีกอย่างที่ต้องรู้เกี่ยวกับกรีนแลนด์คือเป็นประเทศที่ไม่มีถนนเชื่อมกันระหว่างเมือง รถต้องเกาะถนนและฝ่าหิมะได้ด้วย
หลังจากนั้นเราจะกลับเข้าเมืองเพื่อรับประทานอาหารกลางวันแบบบาร์บีคิว ระหว่างนั่งรถ คนขับจะเล่าให้ฟังว่าชาวกรีนแลนด์ทำอะไรบ้าง ประกอบอาชีพอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง ล่าสัตว์
ที่เห็นเป็นไส้กรอกคือเนื้อของ Muskox (มัสก์ออกซ์ เป็นวัวขนสวยแห่งดินแดนอาร์กติก)

และเราจะเห็นป้ายที่มีที่เดียวในโลกคือ ป้ายระวัง Muskox (มัสก์ออกซ์) เนื่องจาก Muskox เป็นสัตว์คล้าย ๆ หน้าตาเหมือนวัว กระทิง แต่จริง ๆ เป็นตระกูลใกล้กับแพะ แกะ จะมีภาพหินแกะสลักเป็นรูป Muskox เพราะเป็นสัตว์พื้นเมือง และมีความสำคัญกับเมือง Kangerlussuaq ด้วย ชื่อว่า “Musk ox the valley”


หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน จะต้องนั่งรถเพื่อไปลงเรือ Albatross ที่นี่ไม่มีท่าเรือ แต่เหมือนเป็นโป๊ะขึ้นมา ซึ่งเรือทุกลำต้องมาใช้โป๊ะ ที่ Albatross จะมีเกือบ 200 ชีวิต ที่ต้องลงเรือลำนี้ ที่เป็นผู้โดยสาร ชุดต้องมีการใส่ชูชีพที่ทางเรือเตรียมไว้ให้



เรือที่จะมารับจะเป็นเรือยาง ในภาษากรีนแลนด์จะเรียกว่า เรือโซดิแอก (Zodiac) ถ้าผู้ที่ไม่เคยนั่งมักจะรู้สึกตื่นเต้น และสนุกสนาน ซึ่งตลอดทริปนี้จะใช้เรือโซดิแอกแทบทุกวัน เรือ 1 ลำ สามารถนั่งได้ 10-12 ท่าน ประมาณฝั่งละ 5-6 ท่าน

หลังจากที่ได้นั่งเรือโซดิแอกมาขึ้นเรือ Albatross Expeditions เรือสำรวจเส้นทางกรีนแลนด์ใกล้ ๆ ขั้วโลกเหนือ จะเห็นเป็นส่วนของบาร์ ห้องพัก จะมีเจ้าหน้าที่พามาดูห้องและแนะนำการ์ดของห้อง 2 แบบ คือ
- การ์ดที่เป็นบาร์โค้ด เพื่อใช้ติ๊ดเวลาลงกิจกรรม และขึ้นกลับมา หรือเวลาที่ซื้อของต่าง ๆ
- การ์ดสีขาวเพื่อใช้เปิดเข้า-ออกห้อง
บนเรือไม่มีการใช้เงิน ทุกอย่างจะถูกเก็บสะสมเอาไว้ และจ่ายทีเดียวเป็นบัตรเครดิตหรือเงินสด


ในวันแรกจะมีการบรีฟ มีการเล่าว่าชีวิต 8 วัน 7 คืน บนเรือ Albatross ต้องใช้ยังไง ทางหัวหน้าเรือมีการพูดถึงกฎและกติกาต่าง ๆ รวมถึงมีการสาธิตการใช้ Life Jacket ด้วย


มีการซ้อมหนีไฟ เพื่อเป็นการเตรียมการเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น มีเสียงกริ่งแล้วต้องรีบนำ Life Jacket ที่อยู่ในห้องของคุณ มาสวมใส่และไปรวมกันบนชั้นดาดฟ้าชั้นบนของเรือ
วันแรกอาจจะยังไม่มีอะไรตื่นเต้นมาก เพราะเราเล่าว่าการเดินทางจากโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก ไปยังประเทศกรีนแลนด์ เดินทางยังไง การเริ่มลงเรือวันแรก โดยที่ยังไม่ได้เที่ยว และได้รู้จักกฎกติกา มารยาทต่าง ๆ ดังนั้น EP.2 จะเป็นการเริ่มต้นผจญภัยกันจริง ๆ แล้ว ฝากติดตาม EP. ต่อ ๆ ไปกันด้วยนะคะ ^ ^

