ถัดจากเวลลิงตัน ฉันเดินทางโดยสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ไปยังควีนส์ทาวน์ถึงเวลาค่ำ ๆ เช้าวันถัดมา แดดอ่อน ๆ ได้ปลุกให้ตื่น พอเปิดประตูห้องออกไป ก็พบกับอากาศบริสุทธิ์และวิวของภูเขาหิมะกับทะเลสาบเบื้องหน้าที่สวยอลังการ ทำให้นึกรำพึง กับตัวเองว่า ทำไมโชคดีขนาดนี้ นี่มันสวรรค์ชัด ๆ จึงอดไม่ได้ที่่จะเก็บภาพ วิวแสนสวย บรรยากาศดี ๆ ในเมืองพักผ่อนอันโรแมนติคนี้ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ
นิวซีแลนด์นั้นมีผลิตภัณฑ์อาหารคุณภาพดี ทั้งนม เนย เนื้อวัว เนื้อแกะ และสุดยอดอาหารทะเล อย่าง กุ้งมังกร หอยนางรม และหอยแมลงภู่ การได้นั่งทานอาหารริมทะเลสาบวาคาติปู ทะเลสาบที่ยาวที่สุดในนิวซีแลนด์ โดยมีน้ำสีเขียวน้ำเงินใสแจ๋๋วเบื้องหน้า ล้อมด้วยภูเขาหิมะเป็นฉากหลัง ในเมืองท่องเที่ยวอย่างควีนส์ทาวน์เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ควรทำ ร้านอาหารจำนวนมากที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ บริการอาหารรสชาติเยี่ยมในราคาที่เหมาะสม หากมองหาร้านอาหารดี ๆ เมนูน่าลิ้มลอง ลองแวะไปทานที่ Eichardt’s Luxury Boutique Hotel ระดับ 5 ดาว หรือ Pier 19 รับรองว่าเราจะได้ดื่มด่ำกับทั้งบรรยากาศและรสชาติอาหารอันน่าประทับใจ นอกจากนี้ควีนส์ทาวน์ยังมีไร่องุ่นดี ๆ สำหรับคอไวน์อีกด้วย ดังนั้นเมื่อมาแล้ว สิ่งที่น่าลองหาประสบการณ์ คือ การทำความรู้จักกับเรื่องราวและรสชาติของไวน์โลกใหม่ อย่างนิวซีแลนด์ ฉันเลือกที่จะเรียนรู้เรื่องเล่าของไวน์ ที่ Amisfield กิจกรรมการชิมไวน์นี้ ทำให้ได้ชิมไวน์หลายตัวทั้ง Rosé, Sauvignon Blanc, Pinot Noir, Riesling ส่วนไวน์ตัวใหม่ ที่ฉันเพิ่งเคยได้ยินและตกหลุมรักคือ Pinot Gris ที่นี่ทำให้ฉันได้ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์องุ่นและรู้ว่าพื้นดินและสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ทำให้ได้ผลผลิตที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ต้องยอมรับเลยว่า อาหารที่นี่รสชาติเยีี่ยมสมคำร่ำลือ อาหารแต่ละจานใช้ความคิดสร้างสรรค์ และบรรจงแต่งออกมาได้อย่างน่าชื่นชม และรสชาติดีเกินบรรยาย เหมาะแล้วกับตำแหน่ง “Best Winery Restaurant 2103”
พูดถึงไร่องุ่นแล้ว นับเป็นโชคดีอย่างมาก ที่เจ้าของบ้านแสนใจดีอย่าง ไบรอันและมอลรีนแห่ง Mt. Rosa Lodge ขับรถมารับฉันแต่เช้าเพื่อจะพาไปเยี่ยมเยือนสวรรค์บนดินของเขา คนทั้งคู่เป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ทีตั้งอยู่ห่างจากควีนส์ทาวน์ไปทางวานาก้าประมาณ 25 นาที บ้านของเขาเป็นเหมือนปราสาทที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาอันยิ่งใหญ่ สิ่งที่พบคือความสงบสุข และธรรมชาติอันสวยงาม ประหนึี่งของขวัญให้แก่ผู้พักอาศัย ที่ Mt. Rosa Lodge นอกจากจะมีไร่องุ่นแล้ว ยังมีห้องพักท่ามกลางไร่ไวน์ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่ด้วยความที่ทั้งไบรอันและมอลรีน ต้องการให้ความรู้สึกพิเศษแก่ผู้มาเยือน จึงให้บริการห้องพักสุดพิเศษเพียง 3 ห้องเท่านั้น ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันกับเจ้าของไร่ การเข้ามาพักที่นี่ ควรใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่า ไม่ควรรีบเร่ง และตักตวงความสุขไปให้ได้มากที่สุด การนั่งจิบไวน์ดี ๆ พร้อมชมธรรมชาติก็ให้ความสุขใจเป็นอย่างมาก สำหรับคู่ฮันนีมูนแล้ว การเข้าพักในที่พักท่ามกลางไร่ไวน์แบบนี้ถือเป็นสิ่งพิเศษ หรืออาจทำให้พิเศษยิ่งขึ้นด้วยการดินเนอร์ด้วยกันในห้อง wine cellar ที่ให้บริการเฉพาะ 2 คน ไบรอันเองนับว่าเป็นกูรูไวน์ ที่จะแนะนำและเล่าเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ผู้สนใจฟังได้ด้วย ครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นที่ถ่ายหนังโฆษณาให้กับทีมที่เดินทางมาจากจีนด้วย
ควีนส์ทาวน์เป็นเมืองแห่งกิจกรรม ซึ่งมีทั้งกิจกรรมที่ท้าทายให้หลั่งอะดรีนาลีน และกิจกรรมเพื่อความรื่นรมย์ ฉันเองเลือกทำกิจกรรมสบาย ๆ อย่างการล่องเรือกลไฟโบราณTSS Earnslawเยี่ยมชมคฤหาสน์ของเศรษฐีสมัยเก่า ที่ตั้งอยู่ในทำเลอันงดงามน่าอัศจรรย์ใจ ฉันมีโอกาสได้เดินดูฟาร์มกวาง อัลปากา วัวขนยาวหน้าตาเป็นมิตร อันมีถิ่นกำเนิดจากสก๊อตแลนด์ ทั้งยังได้ชมโชว์ตัดขนแกะ สุนัขต้นแกะ พร้อมจิบน้ำชายามบ่าย การดูสุนัขต้อนแกะนั้นเป็นเรื่องที่ดูแล้วทึ่งกับความฉลาดของสุนัขที่ตัวไม่ใหญ่นัก แต่สามารถต้อนแกะฝูงใหญ่ให้เข้าคอกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กิจกรรมนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี ๆ ของเด็ก ๆ และครอบครัว เพราะเด็ก ๆ จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับสัตว์ ให้อาหารสัตว์และได้ป้อนนมลูกแกะด้วย หรือหากต้องการทานบาร์บีคิวบุฟเฟ่ต์ที่นี่ก็ทำได้เช่นกัน สำหรับฉันการได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ทำให้จิตใจเป็นสุข
กิจกรรมอื่น ที่สนุกและให้มุมมองที่แตกต่าง คือการทัวร์ควีนส์ทาวน์ด้วยยนตกรรม“สองล้อ” ที่สามารถทรงตัวเองได้ ทีเรียกว่า “Segway” กิจกรรมนี้สนุกและไม่ยากเกินไป เพียงแต่ต้องฝึกฝนเล็กน้อย และเคารพตามกฏที่ทัวร์ไกด์บอก เพื่อความปลอดภัยทั้งของเรา และผู้คนที่สัญจรบนท้องถนน เราตามกันไปเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ประมาณ 8 คนสิ่งที่เราเห็นถนัดชัดเจน คือการใช้ชีวิตของคนที่นี่ช่างมีความสุขเสียนี่กระไร เราผ่านคนวิ่งออกกำลังกาย เดินเล่น จูงสุนัขในสวนสาธารณะ ผู้คนดื่มด่ำกับกาแฟแก้วโปรด หรือจิบเบียร์เย็น ๆ เคล้าวิวดั่งสวรรค์สร้าง เรายังขับเจ้าสองล้อตัดผ่านบริเวณตลาดแผงลอยที่จัดขึ้นทุกวันเสาร์ริมทะเลสาบ เด็กน้อยและเด็กวัยรุ่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “Awesome” หรือเจ๋งจังเลยทัวร์บนเจ้ารถสองล้อนี้ ทำให้เรารู้สึกเท่ห์มิใช่น้อย
ด้วยทัศนียภาพอันงดงาม เราจึงอยากเห็นควีนส์ทาวน์ในแบบ 360 องศา วิธีที่ดีที่สุด คงจะเป็นการขึ้นกระเช้าไปยังบ๊อบพีค เพื่อชมวิวเมืองอย่างเต็มตา เราเลือกที่จะขึ้นตอนเย็น ด้วยเหตุผลที่ว่า จะได้ทานอาหารนานาชาติแบบบุฟเฟ่ต์บนยอดเขา ซึ่งการได้ทานอาหารบน Skyline Gondola นี้ ถือเป็นโอกาสพิเศษ เพราะที่นี่นับว่าเป็นร้านอาหารที่มีวิวอันน่าอัศจรรย์ใจ ติดอันดับ 10 ของโลก จากการจัดอันดับของ Trip Advisor 2013 พร้อมปิดท้ายด้วยการชมโชว์ระบำพื้นเมืองที่เรียกว่า “กีวี ฮาก้า” ด้วย ซึ่งการเต้นแบบนี้ บางคนอาจจะเคยเห็นเมื่อทีมชาติรักบี้ ของนิวซีแลนด์ ที่มีชื่อว่า “All Blacks” ลงสนามแข่งขัน โดยก่อนการแข่งขันทีม All Blacks จะทำการแสดง Haka คือการเต้นแบบชาวพื้นเมืองเมารี ทำท่าทางดุดันข่มขวัญคู่ต่อสู้ เป็นการแสดงความกล้าหาญเข้มแข็งก่อนการแข่ง เด็กชายชาวนิวซีแลนด์เอง ก็ได้เรียนการเต้นฮาก้านี้จากที่โรงเรียนเช่นกัน
และเมื่อเที่ยวหนัก ความเมื่อยล้าย่อมมาเยือน หนึ่งในวิธีผ่อนคลายที่ดีที่สุดคือ การได้แช่น้ำแร่ออนเซ็น เชื่อหรือไม่ว่าที่นิวซีแลนด์นี้ ก็มีให้แช่น้ำแร่ร้อนเหมือนที่ญี่ปุ่นเช่นกัน การปิดท้ายของวันที่ Onsen Hot Pool นับเป็นประสบการณ์สุดพิเศษ ฉันเลือกที่จะแช่น้ำร้อนในห้องส่วนตัวกับเพื่อนสาวอีก 2 คน การประดับแสงไฟในห้องนั้นให้ความผ่อนคลายเป็นอย่างมาก แถมเรายังแช่พร้อมชมดาวเดือนได้อีกด้วย เมื่อท้องฟ้ามืดมาก การมองเห็นดาวสดใสเปล่งประกาย กระจายเต็มฟ้า จึงเป็นเหมือนฝัน เสร็จจากการแช่น้ำแร่ร้อน พนักงานนำชาร้อน ส่งกล่ินหอมกรุ่นมาเสิร์ฟ เพื่อให้วันของเราแสนสบายมากขึ้นอีกเป็นเท่าตัว