อุณหภูมิตอนเช้าของต้นเดือนธันวาคม ในเมืองซาสเฟ สวิตเซอร์แลนด์ อยู่ที่ประมาณ 5 องศาเซลเซียส เช้านี้มีหิมะตกอยู่ทั่วทุกที่เลย วิวที่เห็นเป็นรางวัลของคนตื่นเช้าจริง ๆ เพราะบรรยากาศดีมาก ๆ และโปรแกรมของเราวันนี้ก็คือ จะพาทุกคนไปชมภัตตาคารหมุน 360 องศาที่สูงที่สุดในโลก !!
เดินทางไปขึ้นกระเช้าที่ Alpin Express กระเช้าที่ตั้งอยู่ศูนย์กลางเมืองซาสเฟกัน สวิตเซอร์แลนด์กันค่ะ !
ในการขึ้นไปที่ Restaurant Allalin ต้องไปขึ้นกระเช้าที่มีชื่อว่า Alpin Express ซึ่งสถานีของกระเช้าจะอยู่ที่ศูนย์กลางเมืองเมืองซาสเฟ สวิตเซอร์แลนด์ จะขึ้นทั้งหมด 2 ต่อ ค่ะ คือ Alpin Express 1 และ 2 จากนั้นเราจะไปต่อรถราง เพื่อขึ้นไปที่ Restaurant Allalin ซึ่งมีความสูงอยู่ที่ 3,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
และแล้วก็มาถึงที่ขึ้นกระเช้าแล้วค่ะ ก่อนอื่นเราต้องไปซื้อตั๋วก่อนเลยยย
และแล้วก็มาถึงที่ขึ้นกระเช้าแล้วค่ะ ก่อนอื่นเราต้องไปซื้อตั๋วก่อนเลยยย
และแล้วก็มาถึงที่ขึ้นกระเช้าแล้วค่ะ ก่อนอื่นเราต้องไปซื้อตั๋วก่อนเลยยย
Alpin Express เป็นกระเช้าระบบ Tricable ที่แรกของโลก ซึ่งระบบ Tricable จะเป็นระบบชักรอกกระเช้าที่ประกอบไปด้วย สายเคเบิลรวมกัน 3 เส้น ซึ่งระบบแบบนี้จะทำให้กระเช้ามีความแข็งแรงและมีความปลอดภัยมาก ความจุต่อกระเช้าคือประมาณ 30 คน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
ที่เรามองเห็นไกลๆ ก็คือ สถานีที่เราจะไปต่อกระเช้า Alpin Express 2 กันค่ะ
ตอนนี้เราเดินทางมาได้ครึ่งทางแล้ว มาต่อกระเช้า Alpin Express 2 กันค่ะ ใช้เวลานั่งประมาณ 8 นาที
เมืองซาสเฟ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นเมืองที่มีภูเขาสูงที่สุดที่อยู่ในเขตแดนของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บางภูเขาที่สูงกว่า อาจจะมีอาณาเขตอยู่ในประเทศอื่นด้วย เช่น ฝรั่งเศส หรืออิตาลี) ตรงที่เราเห็นอยู่นี้ก็คือ THE DOM ความสูงอยู่ที่ 4,545 เมตร เลยทีเดียว
จากนั้น เราต้องมาต่อรถราง J METRO ALPIN ซึ่งตอนนี้เราอยู่ที่ความสูง 3,000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลแล้ว และก็ต้องรอรถรางเพื่อที่จะขึ้นไปที่ความสูง 3,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล
J METRO ALPIN เป็นรถรางไฟฟ้าที่เชื่อมระหว่างสถานี Cable Car ไปยังยอดเขา Metro Allalin ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Restaurant Allalin เป้าหมายของเราในวันนี้
อุโมงค์ที่เรากำลังผ่านอยู่นี้ คืออุโมงค์ Felskin-Mittrlallain Tunnel ซึ่งเป็นอุโมงค์ที่ถูกเจาะไปยังหุบเขาและมีความยาวกว่า 1,749 เมตร ทำให้รถรางใต้ดินที่เรานั่งอยู่นี้ ถือว่าเป็นรถรางไฟฟ้าใต้ดินที่มีความสูงที่สุดในโลก ^o^
ในที่สุดดดด ก็ถึงแล้วค่ะ ทุกคนนนน ตอนนี้ก็มาอยู่บนยอดที่เราตั้งใจจะมาแล้ว หลายคนนิยมมาเล่นสกี แต่วันนี้เราจะมารับประทานอาหารที่ภัตตาคารหมุน 360 องศากัน วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใส อากาศดีมาก ๆ
อาหารกลางวัน ก็จะมีทั้งเมนูอาหารท้องถิ่นและเมนูตะวันตกทั่วไป ซึ่งมีหลากหลาย อาทิ ซุป สลัด ของทอด เฟรนช์ฟรายส์ ไส้กรอกและ อื่น ๆ อีกมากมาย
Restaurant Allalin เป็นร้านอาหารหมุน 360 องศา ที่มีความสูงที่สุดในโลก อยู่ที่ 3,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ในการหมุน 1 รอบ จะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงจะหมุนครบรอบ ทำให้เราได้ชมวิวเทือกเขาได้แบบรอบทิศทาง โดยไม่จำเป็นต้องย้ายที่นั่งเลย
Restaurant Allalin ถือว่าเป็นร้านอาหารที่มีวิวสวยมาก ๆ ติดระดับโลก อาหารก็อร่อย ถ่ายรูปก็สวย
นอกจากมาทานอาหารที่ Restaurant Allalin แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักสกีทั่วโลก ที่ไม่ควรพลาด!! การเล่นสกีที่มีหุบเขาล้อมรอบแบบนี้เป็นอะไรที่ฟินสุด ๆ ไปเลย
บรรยากาศวันนี้ก็ค่อนข้างคึกคักเลยค่ะ นักสกีเตรียมพร้อมเล่นสกีกันมาก ๆ
และในตอนกลางคืน เราก็จะไปเดินเล่นในเมืองซาสเฟ สวิตเซอร์แลนด์เพื่อพบกับอีกบรรยากาศกัน ตอนกลางคืน เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้กลับมีความเงียบสงบอย่างมีเสน่ห์ ด้วยแสงไฟน้อยใหญ่ที่ประดับประดาตามทาง แต่ก็ยังมีความคึกคักของร้านอาหารค่ำ และเหล่าโรงแรมที่ให้บริการนักเดินทางในหน้าหนาว ให้ไม่เหงาเกินไป
และ หนึ่งในไฮไลท์ของเราวันนี้คือ…. เราจะพาทุกคนมาทาน Fondue Chinoise อาหารพื้นเมืองของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่พลาดไม่ได้ค่ะ วันนี้เรามาทานกันที่ร้าน Zur muhle เป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ในเมืองซาสเฟ
สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งหน้าตาอาหารจะคล้าย ๆ Hot Pot ของบ้านเรา แต่เขาจะมีซอส Housemade, Sweet chili garlic และ Beetroot
เคล็ดลับในการทานฟองดู ให้อร่อยมากยิ่งขึ้น ก็คือ ในตอนสุดท้ายของการทานฟองดู เราสามารถเรียกพนักงานมาเสิร์ฟน้ำซุปที่ผ่านการจุ่มเนื้อนานาชนิดมาเพื่อทานปิดท้ายได้ค่ะ ซึ่งน้ำซุปนอกจากจะมีรสชาติที่หวานหอมมากๆ อยู่แล้ว พนักงานก็จะใส่เหล้าเชอรี่ไว้ในถ้วยก่อน ( cherry schnapps) แล้วจึงตักน้ำซุปลงไป เป็นการเพิ่มความหอมหวานให้มีกลิ่นของเชอรี่ และแอลกอฮอล์อ่อน ๆ ทำให้มื้อนี้เราอิ่มอร่อย อารมณ์ดี และนอนหลับสบายในท้ายวัน
